รีวิวอาหารอินเดียที่โรงแรมแรมแบรนดท์

พาชิม บุฟเฟ่ต์ Sunday Brunch

“อาหารอินเดีย” เป็นหนึ่งในอาหารที่นักชิมทั่วโลกถวิลหา ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะกลิ่นเครื่องเทศ ที่ทำให้อาหารอินเดียมีความเฉพาะตัว หลายๆคนที่ไม่ใช่แฟนอาหารอินเดีย ก็คงต้องเคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมาอย่างคุ้นหูว่า อาหารอินเดียนั้นทั้งฉุน ทั้งเผ็ด แต่เราอยากจะบอกว่าไม่จริงเสมอไป  เพราะถ้าคุณได้ลิ้มลองอาหารอินเดียแบบต้นตำรับจริงๆแล้วล่ะก็ จะต้องติดใจในความอร่อย (เช่นเรา) อย่างแน่นอน แต่หากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มไปลองชิมอาหารอินเดียรสชาติอร่อยที่ไหนดี? เพจมาดามอิ๋ว ชวนปักหมุดมากันทุกคนไปตามรอยความอร่อยกันแล้ว กับร้านอาหารอินดียที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ การันตีรสชาติ ต้นตำรับจากแดนภารตะของจริงๆคะ

 วันนี้ขอพาไปลิ้มรสอาหารอินเดียในบรรยากาศท้องพระโรงที่ Rang Mahal Rooftop Indian Restaurant ห้องอาหารอินเดียบนชั้น 26 ของโรงแรมแรมแบรนดท์ ย่านสุขุมวิท ที่ได้รับรางวัล Thailand’s Best Restaurants จากนิตยสาร Thailand Tatler ถึง 13 ปีซ้อน

 

เราจะพาทาน บุฟเฟ่ต์ Sunday Brunch กันนะคะ

ทุกวันอาทิตย์ห้องอาหาร “รางมาฮาล” ให้บริการบุฟเฟ่ต์ ตั้งแต่เวลา 11.00-14.30 น. พบกับบุฟเฟ่ต์อาหารอินเดีย จานเด่นที่เป็นที่นิยมชื่นชอบ อิ่มอร่อยกับไก่และเนื้อวัวและดนื้อแกะ ที่ปรุงสดใหม่ๆโดยเชฟชาวอินเดีย, และที่ขาดไม่ได้คือแป้งนานหอม กรุ่นสดๆจากเตา, เครื่องดื่ม และ ขนมหวานตามแบบฉบับอาหารอินเดีย พร้อมกับวงดนตรีอินเดียสดบรรเลง ในราคา 1,250 บาท++ ต่อท่านและคิดครึ่งราคาสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

“ราง มาฮาล” หมายถึงสถานที่จัดเลี้ยงของราชวงศ์อินเดีย ภายในห้องอาหารจึงถูกเนรมิตให้เหมือนท้องพระโรงในพระราชวังอินเดีย พร้อมเสียงเพลงขับกล่อมจากวงดนตรีแดนภารตะ และที่พิเศษสุดคือมุมโรแมนติกเทเบิ้ล ที่ให้คุณได้ดื่มด่ำบรรยากาศวิวกรุงเทพฯในตอนกลางวันหรือจะมาทานมื้อค่ำชมพระอาทิตย์ตกแบบแพโนรามา นอกจากบรรยากาศที่หรูหราโรแมนติก การบริการยังเป็นเลิศ รวมถึงการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเครื่องเทศนานาชนิดที่นำเข้าจากแหล่งปลูกมาผสมผสานปรุงสูตรเฉพาะ โดยเชฟชาวอินเดียผู้เชี่ยวชาญในการปรุงอาหารอินเดียตอนเหนือแบบชนชั้นสูง

ห้องอาหารรางมาฮาล เป็นร้านอาหารอินเดีย ในแบบฉบับของกุ๊กไลของทางภาคเหนืออินเดีย ปรุงโดยเชฟที่มีความชำนาญที่อยู่คู่กับโรงแรมแรมแบรนดท์กว่า 20 ปี ที่ลูกค้าหลังจากที่ได้มาทานอาหารของที่นี่แล้วจะแนะนำลูกค้าท่านอื่นมาด้วย เพราะอาหารของที่นี่ยังคงรักษาคุณภาพและรสชาติของอาหารได้มาตลอด จะมากี่ครั้งก็รสเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ให้ความรู้สึกว่าเหมือนหลุดเข้าไปในประเทศอินเดียไปเลย ด้วยห้องอาหารที่สวยงามทั้งทางด้านการตกแต่ง และอาหารที่หลากหลายสำหรับไลน์บุฟเฟ่ต์ซันเดย์บรันซ์ นอกจากจะเพลิดเพลินไปกับอาหารแล้ว ยังมีวิวที่สวยงามมองเห็นกรุงเทพในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมทั้งยังมีดนตรีพื้นบ้านของอินเดีย สำหรับท่านที่มาฉลองวันเกิดกรุณาแจ้งให้ทางห้องอาหารทราบ เพราะจะมีเชอร์ไพรซ์และการร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์เป็นภาษาอินเดียอีกด้วย..ด้วยราคาหลักร้อยกับไลน์อาหารที่เยอะมากๆ เราคิดว่าคุ้มค่าที่สุดแล้ว..คุณต้องมาลองด้วยตัวเองนะคะ

เริ่มตั้งแต่บรรยากาศที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าห้องโถงของดินแดนภารตะอันโอ่อ่า ตระการตาด้วยลายแสนสวยบนพรมและผ้าที่ประดับตกแต่ง ร่วมด้วยวงดนตรีตามแบบฉบับอินเดียคอยขับกล่อม ขณะที่อีกด้านก็จะพบกับวิวพาโนรามามองเห็นแสงไฟระยิบระยับของกรุงเทพฯ พลางชิมเครื่องเคียงที่เจ็บจี๊ดด้วยสีสันแต่รสอร่อยถูกใจมากไม่ว่าจะเป็น หอมแดงดองรสออกเปรี้ยว ไช้เท้าดองโรยงารสออกหวาน และเครื่องจิ้มจากใบมินท์บดสีเขียวสด กินเข้าคู่กับนาน (Nann) หรือขนมปังตำรับอินเดียได้อย่างเหมาะเจาะ

ก่อนที่เราจะพาไปดูหน้าตาอาหารในแต่ละไลน์ เราขอพาเดินทัวร์ส่วนอื่นๆ ก่อนนะคะ ลักษณะของห้องอาหารที่นี่ค่อนข้างซับซ้อนนิดหน่อยคะ ไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตรงๆ แต่มีมุมและห้องซ่อนจากสายตาอยู่พอสมควร จากการประมาณด้วยสายตา มีโต๊ะบริการทั้งหมดน่าจะราวๆ 30 โต๊ะ มีทั้งโต๊ะใหญ่ โต๊ะเล็ก และหน้าตาเฟอร์นิเจอร์จะแตกต่างกันไป บางโต๊ะก็อยู่ในโซนที่ค่อนข้างมืดแต่มีดวงไฟเป็นจุดๆคะ เป็นส่วนตัวหน่อย บางโต๊ะก็จะอยู่ในส่วนที่สว่างหน่อยติดกับกระจกบานใหญ่ๆ รับแสงแบบเต็มที่ เหมือนกับโต๊ะของเราคะ ลองดูภาพประกอบดู เรียกได้ว่าถ้ามา 2 คน 3 คน จนถึง 10 คน ทางห้องอาหารนี้ก็มีโต๊ะที่พอจะรับรองได้ทุกขนาดครับ  ซึ่งอยู่คนละโซนกับที่ผมนั่งเลย เนื่องจากโซนนี้ค่อนข้างมืด ไม่มีแสงธรรมชาติเท่าไหร่คะ หากใครที่ชอบฟังเพลงอินเดีย หรืออยากลองฟัง ก็เลือกมานั่งโซนนี้นะครับ ส่วนเราขอไปโซนสว่างๆ ดีกว่าคะ

มาดูไลน์ที่สองกันคะว่าจะน่าทานขนาดใหน..ขอบอกว่าคุ้มครับกับบุฟเฟ่ต์อาหารอินเดีย ..แค่ไลน์แรกก็ไม่ไหวที่จะทานแล้วครับทั้งแกะ เนื้อ ผักโขมชีส ข้าวหมกบัสมาตี และอีกหลายอย่างมากมาย

และเครื่องเทศเสิร์ฟร้อน ๆ บนหม้อทองเหลือง และ Murgh Makhanwala แกงไก่ผสมครีม เครื่องเทศ และน้ำมะเขือเทศ กินคู่กับนานกระเทียมหรือข้าวผัดอินเดียที่ใช้ข้าวบาสมาติเม็ดเรียวยาว

ไลน์อาหารของที่นี่หากจะแบ่งง่ายๆ ก็คือ เมื่อเราเดินผ่านจุดที่พนักงานต้อนรับยืนอยู่แล้ว  จะมี 2 ไลน์คือด้านซ้ายและด้านขวามือของเราคะ ด้านซ้ายมือจะมีหม้อทองๆ ปิดฝาเรียงยาวอยู่ประมาณ 10 หม้อ และปิดท้ายด้วยซุ้มเล็กๆ ที่มีปลาและเนื้อแกะคะ โดยอาหารในหม้อๆ นี้เราจะต้องตักเอง แต่ซุ้มตอนท้ายนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ของโรงแรมบริการคะ ส่วนด้านขวามือของเรานั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 5 ไลน์ย่อยๆ ได้แก่ ไลน์อาหาร 3 ไลน์, ไลน์เครื่องดื่ม 1 ไลน์ และไลน์ของขนมหวาน+ผลไม้อีก 1 ไลน์คะ โดยไลน์ของอาหารนั้นจะมีไลน์นึงที่มีพ่อครัวมาคอยทำแบบสดๆ ใหม่ๆ ส่วนใครจะทาน (นาน) ต้องสั่งพนักงานทำมาให้แบบร้อนๆคะ

ในแต่ละหม้อจะมีชื่อกำกับบอกไว้ข้างๆ ครับว่า ชื่ออาหารนั้นชื่ออะไร มีส่วนประกอบที่สำคัญคืออะไรครับ อย่างในภาพนี้ก็เป็นแกงที่ชื่อ แกงไก่ที่ใส่เครื่องเทศต่างๆ และก็มีมะเขือเทศกับหัวหอมคะ

 

มาดูอาหารกันเลยดีกว่าคะ..ซึ่งก็คงไม่ต้องบรรยายมาก เพราะอาหารอินเดียของที่นี่ได้ปรุงจากฝีมือเชฟที่อยู่คู่กับห้องอาหารนี่มากว่า 20 ปี รสชาติอาหารเป็นอาหารอินเดียแท้ทางภาคเหนือของอินเดีย เครื่องเทศจะไม่ค่อยแรงเหมือนทางภาคใต้..เอาเป็นว่าขอให้มาลิ้มลองด้วยตัวเอง แล้วจะเปลี่ยนความคิดเรื่องของอาหารอินเดียที่มีแต่แกงที่มีเครื่องเทศแรง กับโรตี เหมือนที่คนไทยเข้าว่าอาหารฮาลาลนั้นมีแต่เพียงข้าวหมก แต่อันที่จริงแล้วไม่เลยคะ

สำหรับเมนูที่เราชอบและประทับใจสุดในไลน์นี้ก็คือ “Mutton Vindaloo” คะ หรือแกงเนื้อแพะนั่นเอง (Mutton แปลว่าเนื้อแพะคะ) เนื้อแพะของที่นี่ในหลายๆ เมนู ต้องบอกว่ารสขาติดี ไม่เหม็นสาบ ถ้าไม่บอกเราก็ไม่รู้ว่าเป็นเนื้อแพะคะ

สำหรับเมนูที่เราชอบและประทับใจสุดในไลน์นี้ก็คือ “Mutton Vindaloo” คะหรือแกงเนื้อแพะนั่นเอง (Mutton แปลว่าเนื้อแพะ) เนื้อแพะของที่นี่ในหลายๆ เมนู ต้องบอกว่ารสขาติดี ไม่เหม็นสาบ ถ้าไม่บอกเราก็ไม่รู้ว่าเป็นเนื้อแพะคะ

ถัดมาเป็นข้าวหมกค่ะ ข้าวหมกแพะของร้านนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเครื่องเทศที่นำมาทำข้าวหมก เป็นเครื่องเทศที่ส่งตรงมาจากเมืองแขกเลย และข้าวที่ใช้ก็เป็นข้าวหอมของอินเดียหอมดีคะเม็ดยาวกว่าข้าวของไทยที่เราได้กลิ่นหอมด้วยนะ

ข้าวหมกที่นี่ แตกต่างจากข้าวหมกไก่ที่เรากินกันทั่วไปค่ะ คือมันจะไม่ได้มันและเหลืองอ๋อยขนาดนั้น จะเป็นเหลืองบ้างขาวบ้างผสมๆ กัน กินเข้าไปคำแรกกลิ่นเครื่องเทศคละคลุ้งไปทั่วปาก รสชาติแพะก็เค็มๆ แต่กลมกล่อมดีนะ เนื้อแพะไม่มีกลิ่นคาว นุ่มๆ ไม่เหนียว ทานพร้อมน้ำจิ้มและผักเคียงคงจะดี  จานนี้อร่อยสมคำร่ำลือค่ะ

ส่วนไลน์อาหารในหม้อมีมากกว่านี้นะคะ ถ่ายมาไม่หมดคะ อาหารมากกว่า40 รายการเยอะมากคะ

มารู้จักคำว่า  Naan  แป้งนาน (Naan) กำเนิดขึ้นจากกลุ่มชนโมกุลจากเปอร์เชียที่นำแป้งชนิดนี้มาเผยแพร่ในอินเดียเมื่อหลายร้อยปีก่อน ในช่วงที่ราชวงศ์โมกุลปกครองอินเดีย Naan เป็นหนึ่งในอาหารหลักที่รับประทานกันทุกภูมิภาคในอินเดีย มีส่วนผสมหลักๆ คือ แป้งขาว เกลือ ยีสต์ และโยเกิร์ต หรืออาจผสมส่วนประกอบอื่นๆ ที่ถูกเพิ่มเข้าไปตามความนิยมหรือวัตถุดิบท่องถิ่น ทำให้สุกด้วยการอบในเตาดินโค้ง  นานเป็นแป้งที่ขึ้นฟู ซึ่งต่างกับโรตี เพราะนานทำจากแป้งที่ใส่ยีสต์ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Balloon Bread แต่ว่าโรตีไม่ใส่ยีสต์หรือผงฟู จากแป้งเปล่าๆ ต่อมานานก็พัฒนาสูตรโดยเพิ่มส่วนผสมต่างๆ เข้าไปอย่างเช่น กระเทียม บ้างก็มีไส้ เช่น คีมานาน ใส่เนื้อแกะหรือแพะลงไปด้วย เป็นต้น แป้งอีกชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะเหมือนกัน นาน เพียงแต่นำไปทอดจะเรียกว่า ปุรี

นาน (Naan) เป็นแป้งสีขาว มีเกลือ ยีสต์ โยเกิร์ต หรือนมเป็นส่วนผสม สุกโดยอบในเตาดินหรือโอ่งที่เรียกว่า เตาทันดูร์ บางร้านอาหารอินเดียมีเตาประเภทนี้ไว้โชว์ทำอาหาร หากเป็นเตาที่ใช้ถ่าน เมื่อแป้งสุกก็จะมีกลิ่นถ่านหอมน่ารับประทานมาก เตาประเภทนี้เป็นเครื่องมือในการปรุงอาหารประเภทแรกๆ ของโลก ซึ่งมีใช้กันตั้งแต่ยุคหินใหม่โน่นเลยทีเดียว

คนอินเดียรับประทานแป้งและข้าวเป็นหลัก ทุกมื้อจะต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างในสำรับ อาหารจำพวกแป้งหรือจะเรียกว่าขนมปังของชาวอินเดียก็พอได้ จำแนกเป็นหลายชนิดคือ นาน จาปาตี โรตี ฯลฯ

ของหวานทั่วๆไปที่เราเคยกินคะ แล้วก็หลายๆ รายการรสชาติจะหวานหน่อยคะ ทุกอย่างจะใส่ไว้ในตู้แช่เย็นกระจกใส สามารถหยิบใส่จานมาได้เลยคะ

ส่วนอันนี้เราได้ลองคะชื่อว่า “Gulab Jamun” เป็นขนมลูกกลมๆ สีน้ำตาล ในน้ำเชื่อมคะ ข้างในเป็นครีมชีส และก็มีส่วนผสมของ Cardamom (กระวาน) และ Saffron (หญ้าฝรั่น)  ค่อนข้างชอบรสชาติ แปลกและอร่อยดี แต่ใครที่ไม่ชอบหวานต้องระวังเนื่องจากมันค่อนข้างหวานคะ

ปิดท้ายด้วยของหวานแสนอร่อย ทำจากแป้งคล้ายๆโดนัสโรยด้วยน้ำตาลทรายคะ จิ้มด้วยแยมช็อคโกแลตคะ

สรุปให้คะแนน 10เต็ม10 สำหรับคนชอบอาหารอินเดียนะคะ เพราะที่นี่ทำอาหารอร่อย และห้องอาหารก็มีความเก๋าเปิดมานานและได้รับรางวัลมากมาย เรื่องบรรยากาศเกินคำบรรยายมากๆเรานึกว่าเป็นมหารานีมาจากที่พระราชวังที่มีรูฟท็อป คือวิวสวยเว่อออร์มาก เห็นกรุงเทพฯได้ชัด โรแมนติกสุด ภาชนะที่ใส่อาหารก็ดูใส่ใจ เพราะถ้าเราไปกินอาหารอินเดียสิ่งที่เราคาดหวังคือจานสวย ชามเก๋ ซึ่งที่นี่ใส่ใจมาก ถ้าใครอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆหรืออยากกินอาหารอินเดียบรรยากาศดีมากคะ แนะนำว่าห้ามพลาดที่นี่

สถานที่ตั้ง : ชั้น 26 โรงแรมแรมแบรนดท์ กรุงเทพ เลขที่ 19  สุขุมวิท ซอย18  คลองเตย กรุงเทพ 10110
เบอร์โทรศัพท์  : 02 261 7100 ต่อ 7532
ราคา :  1,250 บาท ต่อท่าน
การแต่งกาย : Smart casual
เวลาทำการ :
– เปิดให้บริการอาหารมื้อเย็น ทุกวัน 18.00 – 23.00น.
–  บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน ทุกวันอาทิตย์ 11.00 – 14.30น.
เว็บไซต์ : http://www.rembrandtbkk.com  Facebook : https://www.facebook.com/Rangmahal

 

You may have missed