เดอะมาร์แชลโซเชียลคาเฟ่ / The Marshal Social Cafe
ร้านนี้ตั้งอยู่อยู่ในโครงการ Heritage Ville เข้าซอยประดิพัทธ์ 13 (ปากซอยเป็นธนาคารกรุงไทย) ประมาณ 80 เมตร เจอรั้วสีเขียวทางขวา เลี้ยวเข้ามาได้เลย เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11:00 – 21:00 น. จะแวะมาทานข้าวกลางวัน จะแวะมานั่งทำงานช่วงบ่าย ๆ หรือจะพาครอบครัวมาวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ได้บรรยากาศแบบอุ่น ๆ ดีนะ หรืออยากนัดพบปะพูดคุยเป็นกลุ่มเล็ก ก็จองห้องส่วนตัวก็เหมาะมากคะ
เป็นคาเฟ่ในบ้านสีฟ้าครามกับสีขาวสไตล์วินเทจ บรรยากาศแบบ ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจดูอบอุ่น ล้อมรอบด้วยสวนสวย เหมาะกับการไปนั่งชิลล์ในวันสบายๆ พร้อมอร่อยกับอาหารฝรั่งโฮมเมดหลากเมนู รวมถึงขนมเค้กที่อบใหม่จากเตาทุกวัน
ชื่อ The Marshal Social cafe มาจากการที่ตัวอาคารที่ตั้งของคาเฟ่เป็นบ้านพักเก่า ของจอมพลฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ
และความตั้งใจที่จะให้ร้านอาหาร / คาเฟ่แห่งนี้เป็นที่พบปะ การตกแต่งภายในของร้านเป็นสไตล์ at Dec ภายในอาคารอายุ 70ปีที่มีลักษณะเป็น Modern classic ที่มีองค์ประกอบเป็นม้สักทองและหินอ่อนจากอิตาลีทั้งหลัง โดยได้รับการบูรณะและออกแบบตกแต่งภายในโดยบริษัท จุติ อาร์คิเท็คส์ จำกัดซึ่งเป็นบริษัทสถาปัตย์ของคนไทยที่ได้รับรางวัลก้ารออกแบบในระดับนานาชาติมากมาย ซึ่งได้ออกแบบการตกแต่งภายในเป็น Art Dec.แบบไทยตามลักษณะภายในของตัวบ้านเดิมที่มีเหล็กดัดและลวดลายบันได ชดช้อย สวยงาม สมฐานะของเจ้าของบ้านเดิม เริ่มตั้งแต่โถงทางเข้าตัว อาคารและร้าน เป็นโถงบันไดที่มีโซฟากลมตั้งอยู่โดดเด่นภายใต้โคมไฟChandelier สีทอง ตามมการตกแต่งโถงทางเข้าเป็นสีเขียวขลิบทองตามแบบArt Deco โดยมีพื้นที่ปูด้วยหินอ่อนจากอิตาลี และพื้นไม้บันไดที่ทำด้วยไม้สักปูด้วยพรมแดง ให้ความรู้สึกเหมือนเดินเข้างานเทศกาลหนังเมืองคานส์ โดยชานพักบันไดมีกระจกเงาขนาดใหญ่สะท้อนภาพให้เห็นถึงความอลังการของบันไดและราวบันไดที่มีโครงเหล็กดัดสีทองอันสวยงามและชดช้อย ในส่วนการจัดโซนนิ่งในร้าน แบ่งเป็น 5โซน
ในส่วนขออง Heritage ville เป็นพื้นที่ c.mmunity ที่สำหรับครอบครัวมาผ่อนคลาย สำหรับเพื่อน มาพบปะ สังสรรค์ สำหรับมานั่งคุยงานหรือมานั่งทำงาน ด้วยสถาปัตยกรรม ของอาคารในโครงการที่มีความโดดเด่นทำให้พื้นที่ c.mmunity นี้เหมาะกับผู้ที่ ชื่นชอบด้านศิลปะ ชอบถ่ายรูป เช่นกั โดยมีร้านค้าในโครงการเป็น ร้านอาหาร/คาเฟ่ ร้านซาลอน และร้านคราฟต๊เบียร์ เพื่อที่จะสามารถ้เลื้อกมา ใช้บริการได้ โดยในโครงการมีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนขนาดใหญ่ ที่สามารถมาเดินเล่นได้ ถ่ายรูปได้ หรือสามารถพาน้องสุนัขมาจูงเดินได้ เปรียบเสมือน เป็นพื้นที่ผ่อนคลายใจกลางกรุงเทพฯ ที่เข้ามาแล้วจะรู้สึกหลีกหนีจากความ วุ่นวายในตัวเมืองของกรุงเทพฯ โดยจุดเด่นอย่างหนึ่งของโครงการคือ ร้านค้าแต่ละร้านจะอยู่ในอาคารแต่ละอาคารที่มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น และการตกแต่งภายในที่แตกต่างกัน และมีเรื่องราว พื้นที่ของโครงการทั้ง 2ไร่ เคยเป็นบ้านพักอาศัยของจอมพลอากาศฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี อดีตผู้ บัญชาการทหารอากาศ
ประวัติ จอมพลอากาศฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี อดีตผู้ บัญชาการทหารอากาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และรองนายกรัฐมนตรี
ประคูทางเข้าห้องอาหารชั้นล่าง
โซน Bนe Hl ชั้น 1:เน้นการจัดโต๊ะเพื่อรับประทานอาหาร โทนสีน้ำเงิน เข้มในธีมแบบทหารอากาศ มีเปียโนโดดเด่นวางอยู่กลางร้าน โดยจะมีนักเปิยโนมาเล่นให้ฟังผ่อนคลายทุกวันอาทิตย์ช่วงบ่าย 2ถึงบ่ายสี่โมงเย็น
ภายในบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง สามารถจัดกิจกรรมงานส่วนตัวได้ ร่วม 150 ถึง200 ท่าน
ในส่วนของชั้น2 คะ ชั้น 2 มีห้องแบบไพรเวตให้เลือก 2ห้อง ตั้งชื่อตามฝูงบินผาดแผลงชื่อดัง
โซน.Thunderbirds
เป็นห้องไพรเวตบนชั้น 2อีกห้องที่ออกเป็นโทนสีเขียว ธีม การตกแต่งเป็นธรรมชาติเน้นรูปต้นไม้และผีเสื้อ ให้ฟิลสิ่งแบบ ธรรมชาติ เป็นโซนที่นั่งแบบโซฟา เหมาะกับการมานั่งคุยกันกลุ่มใหญ่ ขึ้นมาหน่อยสักประมาณ 5-10 คน ทั้งสองห้อง สามารถจองเป็นห้องส่วนตัว นั่งคุยงาน พบปะ หรือสังสรรค์ เป็นกลุ่มเล็กได้
โซน Red Arrow เป็นห้องตกแต่งเน้นสีแดง มีที่นั่งประมาณ 3 ถึง 4ที่ เหมาะกับ การมานั่งคุยกันกลุ่มเล็กๆ
ในส่วนของ outdoor
โซนลานคอร์ตยาร์ด และโซนเทอร์เรส ชั้น 1 สำหรับลูกค้าที่ชอบ บรรยากาศแบบเอาท์ดอร์ และเป็นโซนที่ลูกค้าสามารถนำสุนัขเข้ามาได้ สามารถรองรับลูกค้าได้ไม่ต่ำกว่า 40 คน ชั้น 1 มีบริเวณทั้งที่ทางร้านจัดเป็น Courtyard และ Terrace ที่สามารถไปนั่งดื่มหรือทานอาหารได้ วันไหนอากาศดี ๆ หน่อย แอดมินว่าก็ร่มรื่นดี ที่เก๋มากคือ ได้ยินเสียงนกร้องตลอดเวลา แถมตกเย็นมีเสียงจั๊กจั่นระงม ได้อารมณ์ธรรมชาติสุด ๆ ไปเลย
ทางร้านเค้ามีมาตรการเรื่องสุขอนามัยและมาตรการป้องกันเรื่องโควิดเข้มงวดนะ โทรจองโต๊ะก่อนก็ดี ทางร้านเค้าจะได้จัดการนั่งแบบ Social Distancing ให้ด้วย สบายใจกันทุกฝ่ายคะ
ส่วนเรื่องเครื่องดื่ม ก็เป็นอีกส่วนที่ทางร้านชีเรียสไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเรื่อง กาแฟ ทางร้านมีให้บริการทั้งแบบ Espresso bar และ Slow brโดยมีบาริสต้ามืออาชีพที่ทำหน้าที่ส่งต่อกาแฟคุณภาพดีให้กับลูกค้า โดยเมนูที่แนะนำเป็นเอกลักษณ์ของร้าน เช่น อเมริกาโน่น้ำผึ้งนางพญาออแกนิค ส่วนเครื่องดื่ม กาแฟร้อน เช่น ลาเต้ร้อน บาริสต้าของร้านก็จะประดิษฐ์ลวดลายลงบนผิวของกาแฟอย่างสวยงามให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปก่อนลิ้มรสด้วย เมนูก้าแฟอีกอย่างที่ถือเป็นชิเนเจอร์ของร้านที่ทางร้านคิดขึ้นมาเอง ได้แก่ เดอะเร้ด แอร์โรว์ ก็เป็นเมนูกาแฟที่ลูกค้าให้การตอบรับอย่างดีและเป็นที่นิยม อยากให้ลองกัน นอกจากนั้นกาแฟ cold brewใส่ในขวดแก้วทรงขวดน้ำหอมก็เป็น
เมนูที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอเช่นกัน
โซน cafe Hal ชั้น 1 โทนสีเทา เนสำหรับนั่งดื่มกาแฟหรือนั่งทำงานแต่ สามารถนั่งรับประทานอาหารได้เช่นกัน สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 20 คน
โดยเมนูชิกเนเจอร์ คือ อเมริกา โน่น้ำผึ้งนางพญาออแกนิค , The Red Arrow, Hot Late Art, กาแฟ cold brew
สำหรับลูกค้าที่ไม่ทานกาแฟ ทางร้านก็มีเมนูอื่นให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง ดื่มโซดากลิ่นต่าง ๆ ซึ่งทางร้านจะตกแต่งมาให้พร้อมถ่ายรูป และเมื่อดื่ม
แล้วก็จะทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากนี้ ยังมีเครื่องดื่มประเภทไอศกรีมโฟลต ให้คลายร้อน เช่น แพสชั่นฟรุ้ตโซดาวนิลลาโฟลต ที่ดื่มแล้วได้ความรู้สึกทั้ง
ซ่าและนุ่มด้วยฟองไอศกรีมไปพร้อม ๆ กัน
ขนมเค้ก ก็น่าทานคะ มีหลายรสชาติให้เลือกสดใหม่ทุกวันคะ
ของว่าง ของทานเล่น สลัดทูน่า และ ไก่ทอดแฟรนฟาย
ในส่วนอาหาร สไตล์อาหารที่นี่จะเป็นแบบ home-cooked คือไม่ได้เป็นอาหารที่หรูหรามาก และราคาก็เอื้อมถึงได้ ได้คุยกับทางร้าน เค้าว่า ไม่ได้จะวาง position ร้านให้เป็นแบบ fine-dining ให้มากินแบบโอกาสพิเศษ แต่ตั้งใจให้มาทานได้หลายโอกาส เหมือนไปทานข้าวบ้านเพื่อนแล้วมีแม่เพื่อนมาทำอาหารให้ทานสบาย ๆ มากกว่า อาหารเลยมีทั้งพวกชุดอาหารเช้าหลายแบบเลย ไล่ตั้งแต่แบบ Classic Breakfast แบบดั้งเดิม ไปจนเบรคฟาสต์แบบฝรั่ง ๆ มีให้เลือกหลากหลาย ไปจนอาหารไทย ฝรั่ง แบบทานง่าย ๆ ในราคาไม่แพงไปนัก เมนูข้าวที่แอดมินได้ทานและอยากแนะนำให้ลองดูคือ “ข้าวผัดเขียวหวานปลาสลิดกรอบ” คือได้ทานข้าวแบบมีแกงเขียวหวานราดแถมมีปลาสลิดกรอบ ๆ ให้เคี้ยวในปากเพลิน ๆ ปนไปกับรสแกงเขียวหวาน ก็อร่อยดีนะ
ในด้านคอนเซ็ปต์อาหาร ทางร้านตั้งใจที่ให้ลูกค้าที่มาทานรู้สึกเหมือนไปทานข้าวที่บ้านเพื่อน แล้วมีแม่เพื่อนทำอาหารให้กิน เมนูที่ทางร้านเสนอเลยเป็นแบบอาหารแบบ casual diningโดยมีทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง และสามารถกลับมาทานได้บ่อย ๆ ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 120 บาท โดยจานที่แนะนำได้แก่ “เพนเน่ปลาสลิดซอสเขียวหวาน” และ “สปาเก็ต้ตี้ไส้อั่ว” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างอาหารฝรั่งโดยเติมรสชาติ๊แบบไทย ๆ และเนื่องจากมีเสียงเรียกร้องจากลูกค้าประจำของร้านมากมาย ในอนาคตอันใกล้ ทางร้านจะมีนำเสนออาหารเพิ่มอีก ได้แก่ ส้เต็กเนื้อวัวและสเต็กเนื้อแกะ ชุดอาหารเช้า ทั้งแบบคลาส้สิคและแบบฝรั่ง แฮมเบอร์เกอร์ รวมถึง อาหารมังสวิรัติ สำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ด้วยเช่นกันพอทานอาหารอิ่ม ทางร้านยังมีนำเสนอของหวานให้ทานต่อ โดยเมนูที่แนะนำของร้านเป็นเมนูของหวานแบบคลาสสิคที่ใช้วัตถุดิบอย่างดีในการทำเช่น ไอศกรีมกะทิชันเดราดซอสข้าวโพด หรือบานาน่าสปลิท ที่ทานแล้วรู้สึกได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
เมนูร้านนี้เยอะมากคะ ลงไว้ให้ดูตร่าวๆคะมีอีกมากต้องมาที่ร้านคะ
-เนื้อริบอายย่างจิ้มแจ่ว
-ฟิช ฟิงเกอร์
-น้ำพริกปลาทูและผักนึ่ง
-สลัดไก่อบ
-สลัดกุ้ง
-สลัดทูน่า
-เพนเน่ปลาสลิดซอสเขียวหวาน
-ฟูซิลลี่กระเพรากรอบหมูสับไข่ออนเซ็น
-สปาเก็ตตี้กุ้งแม่น้ำซอสไข่เค็ม
-สปาเก็ตตี้ไส้อั่ว
-แทลเลียเตลเลโบโลญนีส
-ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับไข่หมก
-ข้าวผัดเขียวหวานปลาสลิดกรอบ
-ข้าวผัดกระเพราเนื้อน่องลาย
-ข้าวผัดกะเพราหมูตุ๋น
-ข้าวผัดกระเพราไก่
-ข้าวผัดปู
-ข้าวผัดกุ้งสับ
-ต้มยำกุ้ง
-ต้มข่าปลาสลิดไข่เจียว
-เนื้อเก็มต้มกะทิ
มาชมต่อในส่วนของ Salon de Marshal
ซาลอนเดอมารโชล (S alon de Marsbl) ร้านซาลอนเดอมาร์แชลเป้นร้านซาลอนระดับพรีเมี่ยมที่รับบริการทำผมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ตัด สระ ไดร๊ ยืด ดัด ทำสี ทำทรีตเมนต์ โดยทางร้านเลือกแต่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพพรีเมี่ยมในระดับที่ดีที่สุดเพื่อนำมาให้บริการลูกค้าเท่านั้น เริ่มตั้งแต่แชมพูและครีมนวดผม ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ด้านผมที่
ใช้ในร้านทั้งหมดบรรยากาศในร้านเมื่อมาใช้บริการเริ่มตั้งแต่ก้วแรกที่เดินเข้าร้านก็จะมีความรู้สึกเป็นส่วนตัวสูง รู้สึกถึงความเป็นเอกสิทธิ์ ตัวร้านตั้งอยู่ในอาคารทรงไทยที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นขนาดกระทัดรัดที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่ในรูปแบบ Thai Contemporar สีขาวสะอาดตา มีกระจกลายประกนล้อมรอบอาคาร ทำให้ลูกค้ารู้สึกได้มารับบริการท่ามกลางพื้นที่สีเขียวที่อยู่ล้อมรอบ
ช่างต้น ณัฐพล เข็มเพชร (คนเสื้อสีชมพูขวามือ)
ทีมงานนำทีมโดยช่างต้น ณัฐพล เข็มเพชร ช่างผมผู้มีประสบการณ์นับสิบปีในการทำผมให้กับเหล่าเซเล็บ ดารา นักร้อง นักธุรกิจ มากมาย ราคาเริ่ม
ต้นตัดผมอยู่ในช่วง 1,000 – 1,400 บาท ขึ้นกับความยาวผม
เบอร์โทร : 065-936-9000 หรื อ LINE: salondemarshal
Facebook: salondemarshal
เปิดทุกวันยกเว้นวันพุธ: 12:00 – 22:00โดยการนัดคิวล่วงหน้าเท่านั้น
ในส่วนของบาร์เบียร์ Eight Days A Week Home Bar
ร้านเปิดในช่วงเย็นใครที่ชอบดื่มยัง Hang Out ต่อกันได้ที่ ร้าน Eight Days A Week Home Bar ร้านคราฟต์เบียร์รสชาติดี บรรยากาศ อบอุ่น เจ้าของร้านเป็นกันเอง ดูแลใกล้ชิด ไม่ได้มีดีแค่เครื่องดื่มอย่างเดียว อาหารก็ รสชาติดีด้วยนะคะ เปิดทุกวัน 17:00 – เที่ยงคืน (ช่วงนี้เปิดถึง 21:00)
Heritage Ville
The Marshal Social cafe
โทร 061-418-8880 หรือ LINE ID: marshalcafe
-จอดรถได้มากกว่า 25 คัน
-เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11:00 – 21:00 น.
-Facebook: marshalsocialcafe
More Stories
ร้าน”เอิบ” มนต์เสน่ห์แห่ง “ข้าวมันไก่” จากหัวใจผู้สร้างสรรค์ จากความรักในรสชาติข้าวมันไก่ของคุณพ่อ สู่ตำนานความอร่อยที่มอบประสบการณ์พิเศษให้ผู้คนมากมาย
ร้านอาหาร”บ้านกลมกิ๊ก” ซอย ร่วมฤดี 1 ถนนเพลินจิต
“ก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา” อยุธยา ร้านนี้มีก๋วยเตี๋ยวและอาหารคาวหวาน